อธิบายโครงสร้างพื้นพียู (PU Floor) แบบละเอียดทุกชั้น ตั้งแต่พื้นคอนกรีต Primer PU Mortar ไปจนถึง Topcoat เหมาะสำหรับโรงงานที่ต้องการพื้นทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
ทำไมต้องเข้าใจ “โครงสร้างพื้นพียู” ก่อนตัดสินใจติดตั้ง
เจ้าของโรงงานหลายรายมักโฟกัสที่
“พื้นพียูราคาเท่าไร?”
แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่สำคัญกว่าคือ
โครงสร้างพื้นพียูถูกออกแบบและติดตั้งถูกต้องหรือไม่
เพราะพื้นพียูไม่ใช่แค่การเคลือบผิว
แต่เป็น ระบบพื้นหลายชั้น (PU Flooring System)
หากข้ามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง หรือทำไม่ถูกวิธี
ผลลัพธ์คือพื้นเสื่อมเร็ว หลุดล่อน และต้องซ่อมก่อนเวลา
โครงสร้างพื้นพียูประกอบด้วยอะไรบ้าง
โครงสร้างพื้นพียูมาตรฐานจะประกอบด้วย 4–5 ชั้นหลัก
โดยแต่ละชั้นมีหน้าที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ชั้นที่ 1: พื้นคอนกรีต (Concrete Substrate)
พื้นคอนกรีตคือ “ฐานราก” ของระบบพื้นพียูทั้งหมด
หากพื้นคอนกรีตไม่ได้มาตรฐาน ต่อให้ใช้วัสดุพียูคุณภาพสูงแค่ไหน
พื้นก็มีโอกาสเสียหายได้
สิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนทำพื้นพียู ได้แก่
-
กำลังอัดของคอนกรีต
-
ความชื้นภายในพื้น
-
รอยแตกร้าวหรือโพรงอากาศ
-
ความเรียบและระดับของพื้น
ในงานรับเหมาพื้นพียูมืออาชีพ
ขั้นตอนการตรวจพื้นคอนกรีตก่อนเริ่มงานเป็นสิ่งที่ “ข้ามไม่ได้เด็ดขาด”
ชั้นที่ 2: การเตรียมผิวพื้น (Surface Preparation)
ขั้นตอนนี้เป็นหัวใจสำคัญของความแข็งแรงในการยึดเกาะ
โดยจะใช้วิธี เช่น
-
Grinding
-
Shot Blasting
-
Scarifying
เพื่อ
-
เปิดผิวคอนกรีต
-
กำจัดฝุ่น คราบน้ำมัน และสิ่งปนเปื้อน
-
เพิ่มแรงยึดเกาะระหว่างคอนกรีตกับวัสดุพียู
หากไม่เตรียมผิวพื้นอย่างถูกต้อง
จะเกิดปัญหา พื้นหลุดล่อนในระยะเวลาไม่นาน
ชั้นที่ 3: ชั้นรองพื้น (PU Primer)
Primer ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่าง
พื้นคอนกรีต ↔ ชั้นพียู
ประโยชน์ของ Primer ได้แก่
-
เพิ่มแรงยึดเกาะ
-
ลดฟองอากาศ
-
ปิดรูพรุนของคอนกรีต
-
ลดปัญหาความชื้นดันขึ้นมาที่ผิวพื้น
การเลือก Primer ต้องเหมาะกับสภาพพื้นจริง
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ควรใช้ผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์โดยตรง
ชั้นที่ 4: ชั้นพียูหลัก (PU Mortar / PU Base Layer)
ชั้นนี้ถือเป็น “หัวใจของพื้นพียู”
ทำหน้าที่รับแรงทั้งหมดจากการใช้งานจริง
คุณสมบัติของชั้น PU Mortar ได้แก่
-
รับแรงกดและแรงกระแทกสูง
-
ทนความร้อนและสารเคมี
-
ลดการแตกร้าวจากแรงสั่นสะเทือน
ความหนาของชั้นนี้สามารถออกแบบได้ตามลักษณะงาน
เช่น
-
โรงงานอาหาร
-
โรงงานยา
-
พื้นที่รถโฟล์คลิฟต์
-
ห้องเย็น
ชั้นที่ 5: ชั้นผิวหน้า (PU Topcoat)
Topcoat คือชั้นที่มองเห็นและสัมผัสโดยตรง
ทำหน้าที่ทั้งด้านความสวยงามและการปกป้องพื้น
สามารถเลือกคุณสมบัติพิเศษได้ เช่น
-
ผิวเรียบ หรือผิวกันลื่น
-
ทน UV
-
สีเฉพาะตามมาตรฐานโรงงาน
-
เพิ่มความสะอาดและง่ายต่อการดูแล
ชั้น Topcoat ที่ดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นพียูได้อย่างมาก
ทำไมโครงสร้างพื้นพียูต้องออกแบบเฉพาะแต่ละโรงงาน
ไม่มี “พื้นพียูสูตรเดียว” ที่ใช้ได้กับทุกโรงงาน
เพราะแต่ละพื้นที่มีเงื่อนไขต่างกัน เช่น
-
น้ำหนักเครื่องจักร
-
ความชื้น
-
อุณหภูมิ
-
สารเคมี
-
ความถี่ในการใช้งาน
ผู้รับเหมาพื้นพียูที่มีประสบการณ์
จะออกแบบโครงสร้างพื้นให้เหมาะกับหน้างานจริง
ไม่ใช่ใช้สูตรเดียวกับทุกพื้นที่
มุมมองจากผู้รับเหมาพื้นพียูโดยตรง
ปัญหาพื้นพียูส่วนใหญ่มักเกิดจาก
-
ข้ามขั้นตอนเตรียมพื้น
-
ใช้วัสดุไม่เหมาะกับหน้างาน
-
เลือกผู้รับเหมาที่ไม่มีประสบการณ์เฉพาะทาง
ในขณะที่งานที่วางโครงสร้างถูกต้องตั้งแต่แรก
แทบไม่พบปัญหา และใช้งานได้ยาวนานเกิน 10–15 ปี
สรุป: โครงสร้างพื้นพียูที่ดี คือหัวใจของงานพื้นโรงงาน
พื้นพียูที่มีคุณภาพ
ไม่ได้วัดจาก “ราคา” เพียงอย่างเดียว
แต่วัดจาก โครงสร้าง + วิธีติดตั้ง + ประสบการณ์ผู้รับเหมา
หากคุณต้องการพื้นโรงงานที่
-
แข็งแรง
-
ปลอดภัย
-
ใช้งานยาว
-
ไม่ต้องแก้งานซ้ำ
การเลือกผู้รับเหมาที่เข้าใจโครงสร้างพื้นพียูอย่างแท้จริง
คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
