สายไฮดรอลิค (Hydraulic Hose) มีหน้าที่หลักในการ ส่งผ่านของเหลวไฮดรอลิค ภายใต้แรงดันสูงไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบไฮดรอลิค เพื่อขับเคลื่อนและควบคุมการทำงานของเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่างๆ สายไฮดรอลิคมีหลายชั้น โดยทั่วไปจะแบ่งตามจำนวนชั้นของวัสดุเสริมแรง (Reinforcement) ซึ่งมักจะเป็นลวดถักหรือใยสังเคราะห์ โดยจำนวนชั้นจะส่งผลต่อความสามารถในการทนแรงดันของสาย
ตัวอย่างการใช้งานสายไฮดรอลิค:
- เครื่องจักรกลหนัก: ใช้ในรถขุด, รถตัก, รถเครน, รถบรรทุก เพื่อขับเคลื่อนกระบอกสูบไฮดรอลิคที่ใช้ในการยก, ดัน, และเคลื่อนที่
- อุตสาหกรรม: ใช้ในเครื่องจักรในโรงงาน, เครื่องฉีดพลาสติก, เครื่องปั๊มโลหะ, และระบบควบคุมต่างๆ
- ยานยนต์: ใช้ในระบบเบรก, ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์, และระบบยกของรถยนต์
- การเกษตร: ใช้ในรถแทรกเตอร์, รถเกี่ยวข้าว, และอุปกรณ์การเกษตรอื่นๆ
- อื่นๆ: ใช้ในเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง, ปั๊มน้ำ, และอุปกรณ์ที่ใช้ระบบไฮดรอลิค
สรุปง่ายๆ สายไฮดรอลิคเป็นเหมือนท่อน้ำแรงดันสูงที่ใช้ในการส่งกำลังในระบบไฮดรอลิค
ประเภทของสายไฮดรอลิคตามจำนวนชั้น:
- สายไฮดรอลิคชั้นเดียว (One Wire Braid): มีชั้นเสริมแรง 1 ชั้น เหมาะสำหรับงานแรงดันปานกลาง
- สายไฮดรอลิคสองชั้น (Two Wire Braid): มีชั้นเสริมแรง 2 ชั้น ทนแรงดันได้สูงกว่าแบบชั้นเดียว เหมาะสำหรับงานแรงดันสูง
- สายไฮดรอลิคสี่ชั้น (Four Wire Spiral/Braid): มีชั้นเสริมแรง 4 ชั้น ทนแรงดันได้สูงมาก เหมาะสำหรับงานหนักและแรงดันสูงเป็นพิเศษ
- สายไฮดรอลิคหกชั้น (Six Wire Spiral): มีชั้นเสริมแรง 6 ชั้น ทนแรงดันได้สูงสุด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานต่อแรงดันสูงสุด
นอกจากนี้ ยังมีสายไฮดรอลิคแบบพิเศษอื่นๆ เช่น:
- สายเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic Hose): มีชั้นเสริมแรงเป็นใยสังเคราะห์ เหมาะสำหรับงานแรงดันปานกลางถึงสูง และมีน้ำหนักเบากว่าสายยาง
- สายเทฟล่อน (Teflon Hose): ทนต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ
การเลือกจำนวนชั้นของสายไฮดรอลิคขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น:
- แรงดันใช้งานสูงสุดของระบบ: ควรเลือกสายที่สามารถทนแรงดันได้สูงกว่าแรงดันใช้งานสูงสุด
- ประเภทของของเหลวไฮดรอลิค: ควรเลือกสายที่ทนต่อของเหลวที่ใช้
- อุณหภูมิในการทำงาน: ควรเลือกสายที่สามารถทนอุณหภูมิได้ตามที่กำหนด
- สภาพแวดล้อมในการทำงาน: ควรเลือกสายที่ทนต่อสภาพแวดล้อม เช่น การขีดข่วน, สารเคมี, หรือรังสี UV
ดังนั้น การเลือกจำนวนชั้นของสายไฮดรอลิคที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ระบบไฮดรอลิคทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย