สายยางไฮดรอลิค (Hydraulic Hoses) เป็นส่วนประกอบสำคัญในระบบไฮดรอลิค มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานและเงื่อนไขต่าง ๆ ของระบบไฮดรอลิก ที่สำคัญประเภทของสายไฮดรอลิกสามารถแบ่งได้ตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต โครงสร้างของสาย และการใช้งานเฉพาะทางต่าง ๆ
1. ประเภทตามโครงสร้างสายไฮดรอลิคชั้นเดียว (Single Wire Braid):
มีชั้นของลวดเหล็กถักหนึ่งชั้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรง มักใช้กับแรงดันต่ำถึงปานกลาง
ตัวอย่าง: SAE 100R1, EN 853 1SN
สายไฮดรอลิคสองชั้น (Double Wire Braid):
มีชั้นของลวดเหล็กถักสองชั้น ใช้กับงานที่มีแรงดันปานกลางถึงสูง
ตัวอย่าง: SAE 100R2, EN 853 2SN
สายยางไฮดรอลิคแบบหลายชั้น (Multi-Spiral):
มีการเสริมความแข็งแรงด้วยลวดเหล็กถักหลายชั้น (4 หรือ 6 ชั้น) สำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูงและรองรับแรงดันสูง
ตัวอย่าง: SAE 100R12, EN 856 4SP, EN 856 4SH
สายไฮดรอลิคแบบท่อถัก (Textile Braided):
ใช้ใยสังเคราะห์ถักแทนลวดเหล็ก มักใช้ในงานแรงดันต่ำ
ตัวอย่าง: SAE 100R6, SAE 100R7
2. ประเภทตามวัสดุสายไฮดรอลิคยาง (Rubber Hydraulic Hose):
ทำจากยางสังเคราะห์ที่มีความทนทานต่อการสึกหรอ การแตกตัว และความร้อน
มักใช้ในระบบที่มีแรงดันปานกลางถึงสูง
สายไฮดรอลิคเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic Hydraulic Hose):
ผลิตจากเทอร์โมพลาสติก มีน้ำหนักเบา และมีความทนทานต่อสารเคมีและรังสี UV
เหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นและน้ำหนักเบา
สายไฮดรอลิค PTFE (PTFE Hydraulic Hose):ทำจาก PTFE (Polytetrafluoroethylene) ซึ่งทนทานต่อความร้อนสูงและสารเคมี ใช้ในงานที่มีอุณหภูมิสูงและการกัดกร่อน
3. ประเภทตามการใช้งานสายไฮดรอลิคแรงดันต่ำ (Low Pressure Hydraulic Hose):
ใช้กับงานที่มีแรงดันต่ำ เช่น ระบบเบรคของรถยนต์ หรือระบบส่งน้ำมัน
สายไฮดรอลิคแรงดันสูง (High Pressure Hydraulic Hose):
สำหรับงานที่ต้องการแรงดันสูง เช่น ระบบไฮดรอลิกของเครื่องจักรอุตสาหกรรม
สายไฮดรอลิคสำหรับการโอนถ่ายของเหลว (Transfer Hydraulic Hose):
ออกแบบมาเพื่อการโอนถ่ายของเหลวต่าง ๆ เช่น น้ำมัน น้ำ หรือของเหลวไฮดรอลิก
สายไฮดรอลิคสำหรับการดูด (Suction Hydraulic Hose):ใช้ในการดูดของเหลวหรือสารเคมี เข้าสู่ระบบไฮดรอลิค
4. ประเภทตามมาตรฐานมาตรฐาน SAE (Society of Automotive Engineers):
กำหนดมาตรฐานการผลิตและการใช้งานสำหรับสายไฮดรอลิคต่าง ๆ เช่น SAE 100R1, SAE 100R2
มาตรฐาน EN (European Norm):
กำหนดมาตรฐานยุโรปสำหรับสายไฮดรอลิค เช่น EN 853, EN 856
การเลือกใช้สายไฮดรอลิค
การเลือกใช้สายไฮดรอลิคที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น:
แรงดัน (Pressure): แรงดันสูงสุดที่สายจะต้องรับ
อุณหภูมิ (Temperature): ช่วงอุณหภูมิที่สายจะต้องทำงาน
การใช้งาน (Application): ลักษณะงานที่ใช้ เช่น การโอนถ่ายของเหลว หรือการดูด
การทนต่อสารเคมี (Chemical Resistance): ความสามารถของสายในการทนต่อสารเคมีที่อาจสัมผัส
การเลือกสายไฮดรอลิคที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
Facebook : Industryservice